วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2562

สองภพสยบรัก : บทที่สิบสี่ [ฉาก CUT]



บทที่สิบสี่ [ฉาก CUT]




ตลอดเวลาแห่งการเผาไหม้ร่างกายไปกับเพลิงแห่งความรัญจวนใจนั้น แบมแบมไม่รู้เลยว่าถูกอี้เอินปรนเปรอจูบลึกล้ำกี่ครั้ง และไม่ได้นับว่าร่างกายของตนนั้นถูกเขาเชยชมโลมไล้ไปทั้งหมดกี่หน เอี๊ยมตัวน้อยและกางเกงที่บางราวกับไม่ใช่กางเกงหลุดหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ คงเหลือเพียงแค่แพรแดงห้อยกระกระพรวนที่ยังคงผูกคอเขาอยู่ เดาว่าอี้เอินคงตัดใจกระชากออกไปไม่ได้ แม้ว่าจะทำให้การฝากรอยที่คอของเขาลำบากอยู่บ้าง แต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะเอามันออกไป

ก่อนหน้าที่ยังอยู่โลกเดิม แบมแบมเคยคิดว่าคนที่ตนจะลงเอยด้วยสุดท้ายแล้วจะเป็นแบบไหน ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าสุดท้ายแล้วที่ตนจะหลงรักในที่สุดก็คือผู้ชายคนหนึ่งจึงมักจะจินตนาการว่าคงจะเป็นสาวสวยน่ารัก นิสัยใช้ได้สักคน ตอนนั้นได้แต่คิดว่าตัวเองจะต้องเป็นฝ่ายเอาอกเอาใจคนรัก ไหนเลยจะมารู้ซึ้งเอาตอนนี้ว่าการถูกคนรักเอาอกเอาใจมันดีเลิศเพียงไร

“อี้เอิน อึก....” แบมแบมเสียวกระสันเมื่อปลายลิ้นของสามีหยอกเอินยอดอกข้างหนึ่ง ในขณะที่อีกข้างถูกนิ้วเรียวถูไถปัดผ่านย้ำๆ มือทั้งสองข้างของแบมแบมวางลงบนไหล่ชื้นเหงื่อ แผ่นหลังสัมผัสกับเตียงนอนและกลีบดอกไม้ ส่วนด้านหน้ากลับสัมผัสได้แต่เรือนร่างที่แม้ไม่บึกบึนแต่ก็สมชายชาตรีของสามีตน

อี้เอินมัวเมาอยู่กับอกแบนเรียบแต่เร้าอารมณ์คู่นั้นจนพอใจ จนเลื่อนริมฝีปากลากไล้เรื่อยลงมา จากอกถึงหน้าท้อง ระมาที่สะดือ จากนั้นเป็นท้องน้อยแล้วจึงครอบครองส่วนอ่อนไหวแสนน่ารักของแบมแบมอย่างไม่คิดตะขิดตะขวงใจผิดวิสัยของบุรุษยุคโบราณ แบมแบมสะบัดหน้าไปมาด้วยความเสียวซ่าน เสียงกระพรวนดังกรุ๊งกริ๊งกังวานทั่วห้อง มือบางเลื่อนจากไหล่มาขยุ้มเรือนผมของอี้เอิน ส่วนอ่อนไหวถูกโลมเล้ารูดรั้งจากทั้งมือและปาก เขาเสียวจนต้องเงยหน้าขึ้นร้องคราง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อไม่ให้ขาดใจตายไปเสียก่อน และหลังจากความพยายามของอี้เอิน ในที่สุดแบมแบมก็ครางหนักครั้งสุดท้าย ปลดปล่อยสิ่งที่อัดอั้นออกมาอย่างหมดจดงดงาม

อี้เอินเลียริมฝีปากกลืนน้ำนมขุ่นที่น่าสงสัยนั้นลงคอ อีกส่วนหนึ่งที่ไหลรินลงตามแรงโน้มถ่วง เขาใช้นิ้วเกลี่ยขึ้นมาแล้วแตะไปยังจุดซ่อนเร้นลึกลับของแบมแบมที่ไม่มีใครหน้าไหนนอกจากเขาเคยเห็นและแตะต้อง หนึ่งนิ้วที่ชุ่มคราบขาวขุ่นค่อยๆสอดลึกเข้าไป เมื่อร่างบางกระตุกร้องโอดโอยขึ้นมา เขายันตัวขึ้นระริมฝีปากคลอเคลียที่แก้มเนียนชุ่มเหงื่อ ปลอบประโลมเสียงหวาน

“ข้าหยุดไม่ได้แล้วแบม...เจ้าอดทนอีกหน่อยได้หรือไม่” เขาเองมิใช่ไม่รู้ว่าครั้งแรกจะสร้างความเจ็บปวดให้แบมแบม กระนั้นก็ไม่อาจหยุดยั้งความต้องการของตนเองที่สั่งสมจนระเบิดออกมาอีกต่อไปแล้ว

แบมแบมลืมตามองใบหน้าของคนรัก จูบที่สันกรามนั้นเบาๆ แม้จะรู้สึกเจ็บ แต่แบมแบมเข้าใจดีว่าอารมณ์เช่นนี้ต่อให้เอาช้างห้าสิบตัวมาฉุดก็ไม่สามารถหยุดได้ “ทำต่อเถอะ...ข้าทนได้”

ภรรยาอนุญาตแล้ว อี้เอินทั้งโล่งใจทั้งคึกคะนอง นิ้วที่ขยับเข้าออกจากหนึ่งจึงเปลี่ยนเป็นสอง และเป็นสามตามลำดับ ทั้งนี้ก็เพื่อเบิกทางไม่ให้ภรรยาแมวน้อยของเขาต้องเจ็บมาก หลังจากจูบย้ำ ลูบไล้และเบิกทางจนพร้อม อ๋องหนุ่มก็ดึงนิ้วทั้งสามออกมา ยกขาเรียวขาวผ่องทั้งสองข้างของแบมแบมเกี่ยวเอวของตนแล้วจึงจับเอาส่วนนั้นที่แข็งขืนดุดันและปวดหนึบของตนแตะถูวนรอบช่องทางลึกลับที่เบิกเอาไว้

“อ๊ะ...อี้เอิน” แบมแบมสัมผัสได้และรู้ว่าอีกไม่นานนี้สิ่งที่แข็งขืนนั้นก็จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายตน ในเมื่อช้าหรือเร็วก็ต้องเข้ามา แบมแบมผู้ซึ่งเป็นคนเปิดเผยก็เอ่ยเร่ง “เข้ามา อื้อ...เข้ามาเร็วๆ”

อ๋องหนุ่มไม่รอช้า เขาสอดใส่ส่วนนั้นกึ่งใจเย็นกึ่งร้อนรน ใส่เข้าไปเดี๋ยวช้าเดี๋ยวเร็ว และเพราะเป็นครั้งแรกจึงออกจะติดขัดอยู่บ้าง แต่หลังจากแบมแบมกัดฟันผ่อนคลายช่องทางของตนอย่างถึงที่สุด และอี้เอินขยับตัวผลักดันรุนแรงในทีเดียวแล้ว ส่วนอุ่นร้อนแข็งขืนก็เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของแบมแบมอย่างแนบสนิทยิ่ง

“ข้ารักเจ้านะแบม เหมยแดงของข้า...” อี้เอินกระซิบพร่ำคำรัก มองเหมยแดงที่บัดนี้แดงเรื่อไปทั้งตัว กดจูบริมฝีปากบวมเจ่อนั้นอีกครั้ง รอจนแบมแบมคลายความเจ็บจากการเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันครั้งแรก แล้วจึงเริ่มขยับร่างกายเข้าออก

“อ๊า...อึก ชะ...ช้าหน่อย” พอความเจ็บปวดเริ่มหายไป สิ่งที่เข้ามาแทนที่คือความรู้สึกดีเหลือคณา คนเป็นภรรยากอดแผ่นหลังของสามีเอาไว้ ไม่รู้ว่าฝากรอยข่วนบนหลังขาวนั้นไปกี่รอยแล้ว แต่ก็ยังจะฝากรอยเหล่านั้นอีกเรื่อยๆเพื่อระบายความรู้สึกเร่าร้อนหวามซ่านที่กระแทกกระทั้นเข้ามาในกายครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงหอบครวญครางดังคลอไปกับเสียงกระพรวนตามแรงกระแทก ร่างของแบมแบมโยกคลอนเช่นเดียวกับเตียงหลังใหญ่ อี้เอินนั้นนับว่ามีฝีมือโดยแท้ ตั้งแต่ต้นจนใกล้จะจบแรงของเขาไม่มีตกเลยสักกระผีก ถึงจะได้ยินเสียงหอบครางทุ้มต่ำอยู่บ้าง แต่สีหน้าและแววตากับราวจะลุกโชนเป็นไฟ ไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อยใกล้มอดดับเลยสักนิด

“แบม” ในช่วงสุดท้ายระหว่างหนทางถึงปลายฝั่งฝัน อี้เอินเรียกชื่อภรรยาเสียงกระเส่า “แบมของข้า”

แบมแบมเคลื่อนไหวตามแรงกระแทกถี่รัว ครวญครางเสียงสูงต่ำไร้ทำนอง สุดท้ายเมื่ออี้เอินตอกตรึงลึกจนถึงขีดสุด อารมณ์ทั้งหมดก็ถูกปลดปล่อยออกมาพร่างพรมทั่วหน้าท้องของคนทั้งสอง รวมไปถึงในอัดแน่นในช่องทางลึกลับนั้นด้วย

ทั้งสองร่างเปล่าเปลือยยังคงแนบสนิทไร้ช่องว่าง ซวนซบคลอเคลียจนไม่อาจทราบได้ว่าเหงื่อที่ชุ่มชโลมทั่วร่างนั้นเป็นของใคร

แบมแบมนอนหมดแรงในอ้อมกอดอุ่นจนร้อนของอี้เอิน พักจนลมหายใจกลับมาคงที่แล้วก็ช้อนตามองคนที่เอาแต่จ้องตนเองหวานเชื่อมทั้งที่สิ่งนั้นของอีกฝ่ายยังคงฝังลึกอยู่ในร่างของแบมแบมราวกับไม่อยากแยกจาก “อี้เอิน...”

“หื้ม” ขานรับแล้วกัดจมูกน้อยเบาๆด้วยความมันเขี้ยว มือกอดเอวบางพลางลูบไล้แสดงความเป็นเจ้าของ เพราะในที่สุดแล้ว แบมแบมก็ได้เป็นของเขาอย่างหมดจดสมบูรณ์แบบเสียที

“ท่าน...ทำได้ถึงขนาดนี้ เคยไปทำแบบนี้กับใครหรือไม่” ในน้ำเสียงมีแววหึงหวงปะปนอยู่

อี้เอินหัวเราะในลำคอ ยิ่งกอดร่างบางแน่นขึ้นไปอีก “ชั่วชีวิตนี้มีเจ้าอยู่คนเดียว ข้ายังจะเคยเปลืองตัวให้ใครอีกเล่า ครั้งแรกของข้าก็มอบให้เจ้าไปแล้วเมื่อครู่นี้อย่างไร”

คนที่กลายเป็นผู้ช่วงชิงพรหมจรรย์คนอื่นอย่างแบมแบมกลับหน้าแดงก่ำ “แล้วไปเรียนรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหนกัน” ทำไมถึงได้เก่ง...แบบนี้ แน่นอนว่าประโยคสุดท้ายได้แต่คิดในใจ ไม่ได้ถามออกไป

“บันทึกเกี่ยวกับกามสูตรที่ต้าชิงมิใช่ไม่มี อีกอย่าง...ตลอดหลายปีมานี้ข้าเฝ้าแต่จินตนาการเรื่องวันนี้มาโดยตลอด ครุ่นคิดอยู่แต่ว่าจะครอบครองเจ้าด้วยวิธีไหน ครอบครองอย่างไร คิดตั้งแต่วิธีเริ่มกระทั่งบทสรุป คิดไปคิดมานับร้อยนับพันครั้ง อืม...กระทั่งในฝันก็ยังเก็บเอาไปคิดต่อ แน่นอนว่าเมื่อช่วงเวลาแห่งความเป็นจริงมาเยือน ข้าย่อมจะต้องเอาสิ่งที่ครุ่นคิดว่าจะทำนำมาปฏิบัติใช้ แล้วเป็นอย่างไร? ถามเช่นนี้แสดงว่าชอบใช่หรือไม่?

“ฮึ๊ย!” เมินใส่หลบสายตา “ไม่เท่าไหร่หรอก”

“เฮอะ! เจ้าแมวน้อยกล้าบอกว่าไม่เท่าไหร่หรือ เช่นนั้นสามีผู้นี้จะลองทำดูอีกสักครา ดูว่าคราวนี้เจ้าจะบอกว่าดีเท่าไหร่!” ว่าแล้วก็ช้อนร่างของแบมแบมขึ้นอุ้มทั้งที่ยังเชื่อมกันอยู่ เดินอย่างไม่อนาทรร้อนใจไปยังห้องอาบน้ำก่อนจะก้าวลงไปในอ่างอย่างมั่นคงยิ่ง น้ำในอ่างแต่แรกก็อุ่นอยู่หรอก แต่ขณะรออี้เอินกลับจากเรื่องงานมันก็เย็นไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ทว่าการลงไปอาบสองคนเช่นนี้กลับทำให้น้ำเย็นร้อนระอุขึ้นมาอีก อี้เอินนั่งอยู่ด้านล่างโดยมีแบมแบมนั่งทับอยู่ด้านบน เขาเตรียมจะขยับกายเริ่มต้นยกสองอีกครั้ง หากแต่คราวนี้ภรรยาของเขาได้ห้ามเอาไว้

“ข้าลงมือเอง” แบมแบมเชิดหน้าไม่ยอมแพ้ อายก็อายอยู่หรอก แต่ในเมื่อเป็นครั้งแรกเหมือนกัน แล้วทำไมต้องให้อี้เอินแสดงฝีมือฝ่ายเดียว เพียงจบประโยคคนร่างบางก็เริ่มเคลื่อนไหวขึ้นลงจนน้ำในอ่างกระเพื่อมไหว กระพรวนดังกังวานไม่หยุด




______________

ยังมีเนื้อหาต่อในเด็กดีค่ะ
\
ลิ้งกลับไปอ่าน : https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1817942&chapter=18



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น